ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแผนที่
ความหมายของแผนที่
แผนที่ คือ สิ่งที่แสดงลักษณะของพื้นผิวโลกทั้งที่มีอยู่ตามธรรมชาติและปรับปรุงแต่งขึ้น โดยแสดงลงในพื้นแบนราบ ด้วยการย่อให้เล็กลงตามขนาดที่ต้องการ และอาศัยเครื่องหมายกับสัญลักษณ์ที่กำหนดขึ้น
ความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่
1. ด้านการทหาร แผนที่มีความจำเป้นอย่างมากในการวางแผนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีถ้าขาดแผนที่หรือแผนที่ล้าสมัย ข้อมูลไม่ถูกต้อง การวางแผนอาจผิดพลาดได้
2. ด้านการเมืองการปกครอง จำเป็นต้องอาศัยแผนที่ในการวางแผนดำเนินการ เตรียมรับหรือแก้ไขสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างถูกต้อง
3. ด้านเศรษฐกิจและสังคม ในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ต้องอาศัยแผนที่เป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อให้ทราบทำเลที่ตั้ง สถานภาพทางกายภาพแหล่งทรัพยากร
4. ด้านสังคม สภาพแวดล้อมทางสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ที่เห็นได้ชัดคือสภาพแวดล้องทางภูมิศาสตร์ ซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมทางสังคมเปลี่ยนไป
5. ด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว แผนที่มีความจำเป็นต่อนักท่องเที่ยวในอันที่จะทำให้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่ายสะดวกในการเดินทาง
6. ด้านการเรียนการสอน แผนที่เป็นตัวส่งเสริมกระตุ้นความสนใจ และก่อให้เกิดความเข้าใจในบทเรียนดีขึ้น
7. ใช้เป็นแหล่งข้อมูลทั้งทางด้านกายภาพ ภูมิภาพ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สถิติ และการกระจายของสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ และปรากฎการณ์ต่าง ๆ
ส่วนประกอบของแผนที่
1. ชื่อชุดแผนที่และมาตราส่วน (Series Name and Map Scale) คือ THAILAND ประเทศไทย 1:5,000 จะปรากฏอยู่มุมซ้ายด้านบนของแผนที่
2.หมายเลขประจำชุด (Series Number) เป็นหมายเลขอ้างอิงที่แสดงถึงการจัดทำแผนที่ว่าเป็นชุดใด จำปรากฏอยู่มุมบนขวาและล่างซ้ายของแผนที่ ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข L 7017 มีความหมายดังนี้
L แทนRegional Area หรือ Sub-Regional Area จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ L เป็นภูมิภาคที่ครอบคลุมประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย จีน ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น
7 แทนมาตราส่วน (ระหว่าง 1:70,000 ถึง 1:35,000)
0 แทนบริเวณที่แบ่ง L เป็นภูมิภาคย่อย (Sub-Regional Area) คือบริเวณ ประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และจีน
17 แทนเลขลำดับที่การทำชุดแผนที่ที่มีมาตราส่วนเดียวกัน และอยู่ในพื้นที่ภูมิภาค L เดียวกัน ประเทศไทย ตรงกับลำดับที่ 17
3. ชื่อแผนระวาง (Sheet Name) แผนที่แต่ละฉบับจะมีชื่อระวาง ซึ่งได้มาจากรายละเอียดที่เด่นหรือที่สำคัญทางภูมิศาสตร์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ชื่อของจังหวัด อำเภอ หมู่บ้านที่สำคัญ ชื่อระวางจะปรากฏอยู่สองแห่ง กึ่งกลางระหว่างตอนบน และทางด้านซ้ายของขอบระหว่างตอนล่าง
4. หมายเลขแผ่นระวาง (Sheet Number) แผนที่ที่แต่ละระวางจะมีหมายเลขซึ่งกำหนดขึ้นตามระบบที่วางไว้เพื่อความสะดวกในการ อ้างอิงหรือค้นหา ตามปกติจะมีสารบัญแผนที่ (Map Index) เพื่อการค้นหาหมายเลข แผ่นระวางนี้จะแสดงไว้ที่ขอบระวางมุมขวาตอนบนและมุมซ้ายตอนล่าง
5. มาตราส่วนแผนที่ (Map Scale) แสดงไว้ที่กึ่งกลางระวางตอนล่าง และมุมซ้ายตอนบน มาตราส่วนแสดงไว้เพื่อให้ทราบอัตราส่วน ระหว่างระยะในแผนที่ กับ ระยะในภูมิประเทศที่ตรงกัน จะมีหน่วยวัดที่ต่าง ๆ กัน เช่น ไมล์ เมตร หลา ไมล์ทะเล
การคำนวณระยะทางบนแผนที่
1. คำนวณได้จากสูตร : มาตราส่วนของแผนที่ = ระยะบนแผนที่ ระยะในภูมิประเทศ
2. การหาระยะโดยอาศัยมาตราส่วนแบบบรรทัด
2.1. ให้กระทำโดยนำขอบบรรทัดหรือขอบกระดาษเรียบ ๆ วางทาบให้ผ่านจุดสองจุดที่ต้องการหาระยะทางบนแผนที่แล้วทำเครื่องหมายไว้ที่ขอบกระดาษแสดงตำแหน่งของจุดทั้ง 2
2.2. นำขอบกระดาษไปวางทาบที่มาตราส่วนเส้นบรรทัด อันมีหน่วยวัดระยะตามต้องการแล้วอ่านระยะบนมาตราส่วนเส้นบรรทัด ระยะที่ได้จะเป็นระยะราบใน ภูมิประเทศจริง
การเปรียบเทียบขนาดของมาตราส่วนแผนที่
ในการเปรียบเทียบขนาดของมาตราส่วนของแผนที่ว่า แผนที่ฉบับใดมีมาตราส่วนใหญ่หรือเล็กกว่ากันให้สังเกตจากตัวเลขมาตราส่วนง่าย ๆ เช่น ระหว่าง1/2กับ 1/10 นั้น 1/2 มีขนาดใหญ่กว่า 1/10 ข้อสังเกตุคือมาตรส่วนที่ใหญ่กว่าตัวเลขที่ส่วนจะมีค่าน้อยกว่ามาตราส่วนที่เล็กกว่า เช่น แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 จะมีขนาดใหญ่กว่าแผนที่มาตราส่วน 1:2,000,000
6. คำอธิบายสัญลักษณ์(Legend)เป็นรายละเอียดที่อธิบายความหมายของสัญลักษณ์ (Symbol) ที่ใช้แสดงในแผนที่ เช่น ประเภทของเส้นถนนซึ่งจะปรากฏที่มุมล่างด้านซ้ายของแผนที่
ลักษณะของสัญลักษณ์ที่ดี
1. ต้องมีลักษณะอันเป็นสากล คือบุคคลจากต่างถิ่น ต่างประเพณี ต่างพื้นที่กันสามารถตีความได้ตรงกัน
2. รูปแบบของสัญลักษณ์ต้องเป็นแบบเรียบ ๆ ชัดเจน เขียนง่าย ขนาดเหมาะสมกับมาตราส่วนของแผนที่
3. สัญลักษณ์ที่ใช้แทนสิ่งต่าง ๆ กันควรมีลักษณะต่างกันโดยสิ้นเชิง เพื่อไม่ให้มีการตีความผิด
4. เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้อ่านสามารถตีความได้ทันทีโดยไม่ต้องอ่านคำอธิบายสัญลักษณ์
5. ถ้าสัญลักษณ์มีรูปแบบเหมือนกันแต่ใช้แทนสิ่งที่แตกต่างกันควรกำหนดให้สีต่างกันสีของสัญลักษณ์
1. สีดำ แทนรายละเอียดที่สำคัญทางวัฒนธรรมหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หมู่บ้าน ทางรถไฟ
2. สีน้ำเงิน แทนรายละเอียดที่เป็นน้ำ เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ หนอง บึง
3. สีน้ำตาล แทนรายละเอียดที่มีความสูงต่ำของผิวพิภพ เช่น เส้นชั้นความสูง
4. สีเขียว แทนบริเวณที่เป็นป่าหรือพืชพรรณไม้ต่าง ๆ
5. สีแดง แทนถนนสายหลัก