กิจกรรม ห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี(เกษตร)
ขั้นตอน/วิธีการพัฒนา
1. นำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียนคุณภาพวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
1.นำผลการทดสอบระดับชาติ และข้อมูลสารสนเทศประเมินภายนอก
ประเมินภายในมาใช้ในการวางแผนออกแบบพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ(เกษตร) ในช่วงชั้นที่ 3 และ
ช่วงชั้นที่ 4
2.จัดกิจกรรมการเรียนรู้และดำเนินการสอนแบบโครงงานเทคโนโลยีเกษตรและอื่นๆ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา
3.จัดกิจกรรมส่งเสริม ป้องกัน และแก้ปัญหาให้กับนักเรียนแต่ละกลุ่ม โดยการป้องกันแก้ปัญหานักเรียนที่มีผลการเรียนต้ำกว่าเกณฑ์ด้วยวิธีการที่สัมพันธ์สอดคล้องกับการป้องกันแก้ปัญหานักเรียนตามงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
4.ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสนุกและมีความสุขในการเรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง และนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญาไทยเข้ามาสู่กระบวนการจัดการเรียนรู้ 5.ศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาตนเอง จากสื่อเอกสารในรายวิชาเกษตรและบทความรู้ที่ใช้พัฒนางานอื่นๆที่รับผิดชอบและสื่อทางอินเตอร์เนต แล้วนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ประกอบการเรียนการสอนและออกแบบการเรียนรู้ ผลิตใบงาน ใบความรู้ เอกสารประกอบการเรียนการสอนที่น่าสนใจ และทันสมัย ออกแบบสร้างสื่อแผ่นภาพไวนิวในรายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)2.ออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
1.ใช้รูปแบบ Backward Design ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ(เกษตร) โดยอิงกับมาตรฐานการเรียนรู้ และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2.กำหนดหน่วยการเรียนรู้ รายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร) อย่างมีประสิทธิภาพ 3.จัดทำหน่วยการเรียนรู้โดยระบุเป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนและกิจกรรมการเรียนรู้ สอดคล้องสัมพันธ์กันและตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรครบถ้วน กิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการคิด เลือกวิธีการวัดและประเมินผลได้ตรงกับเป้าหมายการเรียนรู้และตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรและมีการนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร) 4.จัดการเรียนรู้ ที่มีขั้นตอนกิจกรรมนำเข้าสู่การเรียน กิจกรรมพัฒนานักเรียนทั้งด้านผลการเรียนและการพัฒนาพฤติกรรมอันพึงประสงค์ กิจกรรมรวบยอดครบถ้วน ตามการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ กิจกรรมส่วนใหญ่จะเน้นบทบาทของนักเรียนมากกว่าครู เช่น นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ การเผยแพร่องค์ความรู้สู่ชุมชนและสาธารณะ
5.ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด ค้นคว้าสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้และการนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เช่น การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิตเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาไทย 6.วัดและประเมินผลตามสภาพจริงด้วยวิธีการและเครื่องมือที่หลากหลาย มีเกณฑ์การประเมินผลงาน/ชิ้นงานครอบคลุมมาตรฐานและเป้าหมายการเรียนรู้ เช่น เกมส์การทอยลูกเต๋าตอบปัญหาเป็นกลุ่มและรายบุคคล การประเมินผลจากชิ้นงาน การสะท้อนผลที่เกิดจากกระบวนการเรียนรู้และอาสาเผยแพร่องค์ความรู้สู่ชุมชนและสาธารณะด้วยกระบวนการ(AAR) 7.นำผลการประเมินมาวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของผู้เรียนและสะท้อนผลสู่ผู้เรียนเพื่อการพัฒนา และรายงานผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแก่ผู้ปกครอง เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้เรียนทุกด้าน 8.นำผลการประเมินมาจัดกลุ่มผู้เรียนและออกแบบการเรียนรู้หรือพัฒนาผู้เรียนอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องและมีการรายงานผลผู้เกี่ยวข้องเพื่อใช้ผลการพัฒนาผู้เรียนร่วมกัน ทั้งการพัฒนาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 9.จัดทำร่องรอยการประเมินและนำเสนอผลการพัฒนาผู้เรียนด้วยระดับคุณภาพ มีการรายงานผลการพัฒนาผู้เรียนแก่ผู้เกี่ยวข้อง และนำผลการประเมินชิ้นงานมาพัฒนาผู้เรียนให้มีระดับคุณภาพที่สูงขึ้น
3.การวิจัยในชั้นเรียน (CAR)
1.วิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล
2.จัดทำและรายงานการวิจัยชั้นเรียนเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)และการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
3.ใช้กระบวนการจิตอาสาสร้างสำนึกจิตสาธารณะในการป้องกันและแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ
ในกรณีผู้เรียนขาดเรียน ขาดความกระตือรือร้นในการเรียน
และใช้กระบวนการจิตอาสาสร้างสำนึกจิตสาธารณะในการอาสาแบ่งปันความรู้สู่ชุมชนและสาธารณะ
4.จัดทำรายงานตนเอง(Self Study
Report : SSR) เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้หรือการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของตนเอง
5.จัดทำและรายงานวิจัยชั้นเรียนเกี่ยวกับการใช้และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนปกติและนักเรียนพิเศษ
6.บันทึกผลการประเมินและพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนพัฒนาผู้เรียนต่อไป
4.การใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอนวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
1.นักเรียนทุกคน ใช้สื่อ ICT เพื่อฝึกปฏิบัติตามกิจกรรมการเรียนรู้และตามความต้องการ
เช่น การสืบค้นข้อมูลในรายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร) การจัดทำข้อมูลเอกสารเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน
การเผยแพร่ผลการเรียนรู้และองค์ความรู้ทางเวปไซต่างๆ การส่งและนำเสนอรายงานทางสื่ออินเตอร์เนต
การวัดและประเมินผล การสร้างBlogเผยแพร่ความรู้
2.จัดทำโปรแกรมบทเรียนสำเร็จรูปรายวิชาการงานอาชีพ(เกษตร)
เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนและการแก้ปัญหานักเรียนที่มีผลการเรียนต้ำหรือไม่ผ่านรายบุคคล
3.จัดห้องปฏิบัติการที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพที่มีสภาพพร้อมใช้
ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีอุปกรณ์เพียงพอและมีความปลอดภัย
4.ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน
ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ เช่น Power point
, CAI, CoPs ออนไลน์
5.ใช้สื่อ
ICT ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้กระบวนการจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
5.1 ทำให้นักเรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
5.2 เป็นเครื่องมือสำหรับการสอนเนื้อหาที่จะบรรยายที่ยังไม่ลึกซึ้ง
5.3 ใช้ ICT เพื่อประเมินผลของนักเรียนและการทำงาน หรือจะใช้เป็นเครื่องมือวัดผลตอบสนอง
5.4 เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการใช้กระดานดำ
หรือใช้สรุปการเรียนการสอน
6.ครูออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้สื่อ ICT
เพื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
7.จัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ(เกษตร) โดยใช้สื่อ ICT และแหล่งเรียนรู้ในระบบเครือข่ายจัดกิจกรรมการเรียนรู้
5.การพัฒนางานโดยการสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline)
1.ทำความรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
มีการคัดกรองนักเรียนตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและ
นำผลการคัดกรองมาพัฒนา/ปรับปรุงพฤติกรรม โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียน
ตามความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาตามศักยภาพ
มีการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน/ป้องกันช่วยเหลือ/และแก้ไขปัญหาราย บุคคล มีระบบการส่งต่อนักเรียนตามสภาพปัญหาทั้งภายในและภายนอก
2.สื่อสารกับผู้เรียนด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความรู้สึกนึกคิด รับฟังอย่างเข้าใจและให้เกียรติเคารพศักดิ์ศรีของผู้เรียน พัฒนาพฤติกรรมที่พึงประสงค์
การมีวินัยในตนเองและบุคลิกลักษณะที่ดี ใช้คำถามให้ผู้เรียน สะท้อนความรู้สึก
หาสาเหตุ และผลการกระทำบนพื้นฐาน การยอมรับของผู้เรียน ใช้คำถามให้ผู้เรียนประเมินและเลือกทางเลือกกำหนดแนวปฏิบัติที่เกิดผลดีกับตนเองโดยสร้างข้อตกลงร่วมกัน ครูเสริมแรงให้เกิดการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเกิดผลดีต่อตนเองและสังคมมีความภาคภูมิใจและยึดถือปฏิบัติอย่างยั่งยืนพยายามให้เด็กมีส่วนร่วมมากที่สุด คำนึงถึงความต้องการทางพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของผู้เรียน
3.ชื่นชมผลงานร่วมกันระหว่างครู และนักเรียน ด้วยการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดองค์ความรู้สู่ชุมชน” “ตลาดนัดเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดโรค พลโลกปลอดภัย” “กินดี อยู่ดี มีพอเพียง” เพื่อนำเสนอผลงานการเรียนการสอน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คำนึงถึงแรงจูงใจและโลกทัศน์ของเด็ก พยายามให้เกิดความยุติธรรม เท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติเสริมสร้างความสามัคคีกลมเกลียวในกลุ่ม
4.จัดทำฐานข้อมูล Best Practice ในเรื่อง การสร้างวินัย หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่เป็นรูปธรรม ด้วยกิจกรรมเครือข่ายจิตอาสาชาวเลือดหมู-ดำ บูรณาการสู่กระบวนการจัดการเรียนการสอนวิชาการงานอาชีพ(เกษตร) เพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่ผู้เรียนและสามารถวิเคราะห์คุณธรรม จริยธรรมที่เกิดขึ้นจริงแก่ผู้เรียนได้อย่างชัดเจน คือ การให้ การเสียสละ การมีน้ำใจ มีความประพฤติที่ดีงาม ทั้ง กาย วาจา ใจ เสียสละความสุขส่วนตน เพื่อความสุขส่วนรวม มีความซื่อสัตย์สุจริตมีอัธยาศัยอ่อนโยน เคารพในเหตุผล มีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโส มีความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน โดยปราศจากความเกียจคร้าน ไม่มุ่งร้ายผู้อื่น ไม่ก่อทุกข์หรือเบียดเบียนผู้อื่น รักษาอาการ กาย วาจา ใจให้เรียบร้อย การอดทนต่อสิ่งทั้งปวง มีความยุติธรรม หนักแน่น ถือความถูกต้อง เที่ยงธรรมเป็นหลัก โดยนำผลการคัดกรองมาจัดกิจกรรมพัฒนา/ปรับปรุงพฤติกรรม และจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ตามความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาตามศักยภาพ เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน/ป้องกันช่วยเหลือ/และแก้ไขปัญหาราย บุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้มีระดับคุณภาพที่สูงขึ้น