หน่วยที่ ปากท้องของเรา
ความหมายของสถาบันการเงิน
สถาบันการเงินเป็นองค์กรการเงินที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในการจัดสรรเงินหรือเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับธุรกิจการเงินในการให้กู้ยืมเพื่อการลงทุนหรือการบริโภคในด้านการประกอบอาชีพ ตลอดจนการกู้ยืมเงินเพื่อการเอนกประสงค์ เช่น กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เครดิตจ่ายล่วงหน้า(ทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมเงินทุนจากประชาชนแล้วนำมาให้กู้ยืมเพื่อการธุรกิจหรือเพื่อการบริโภค) ดังนั้นสถาบันการเงินจึงมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศอันก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจคล่องตัว ความสำคัญของสถาบันการเงินวัดได้จาก
1.ความสามารถในการกู้เงิน
2.ความสามารถในการระดมเงินออม
3.ยอดรวมของทรัพย์สิน
ลักษณะทางสถาบันการเงิน
1.เป็นศูนย์กลางการระดมเงิน โดยระดมเงินจากผู้ที่มีกำลังทรัพย์ในการออม แล้วทางสถาบันนำไปจัดการบริหารเงินโดยการให้สินเชื่อแก่ผู้ต้องการสินเชื่อ
2.เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ลดความเสี่ยง โดยทำหน้าที่เสี่ยงแทนผู้ออมและผู้กู้ กล่าวคือ จะรับภาระในการเสี่ยงแทน เมื่อมีเหตุสุดวิสัยตามสัญญา
3.เป็นสถาบันที่สร้างสภาพคล่องทางการเงิน โดยการให้บริการค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินหุ้นหรือหลักทรัพย์ทางการเงินบางประเภท ทำให้สินทรัพย์มีความน่าเชื่อถือ
ประเภทของสถาบันการเงิน
สถาบันการเงินในระบบเศรษฐกิจไทย แบ่งตามบทบาทหน้าที่เป็น 2 รูปแบบใหญ่ ๆคือธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ธนาคาร
สถาบันการเงินประเภทธนาคาร
มีความสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศในด้านการระดมเงินออม และการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนภายในประเทศ เพื่อการหมุนเวียนของเงินตราในการบริโภคและการผลิตอันสำคัญ สถาบันการเงินประเภทธนาคารมี 2 ประเภทคือ
ธนาคารกลางหรือธนาคารแห่งประเทศไทย มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลระบบการเงินธนาคารแห่งประเทศ ไม่แสวงหากำไร และไม่แข่งขันกับสถาบันการเงินเอกชน มีหน้าที่ดังนี้ รักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
เป็นนายธนาคาร เป็นตัวแทนและเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล การออกพิมพ์และออกใช้ธนบัตร รวมทั้งการรักษาทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นตัวแทนของรัฐบาลในด้านการติดต่อกับองค์การทางการเงินระหว่างประเทศ
ธนาคารพาณิชย์ หมายถึงธนาคารที่ประกอบธุรกิจระดมเงินออมในรูปเงินฝากต่างๆและการปล่อยสินเชื่อแก่บุคคลหรือธุรกิจต่างๆรวมทั้งการซื้อขายตั๋วแลกเงินหรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใดและการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ
สถาบันการเงินประเภทไม่ใช่ธนาคาร
สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หมายถึง สถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริการด้านการเงิน ด้านการให้กู้ยืมเพื่อนำไปลงทุนต่างๆของภาคเอกชนและเป็นแหล่งระดมเงินฝากของประชาชนและเป็นนายหน้าด้านการซื้อขายหลักทรัพย์
1บริษัทเงินทุน เป็นสถาบันการเงินของเอกชนมีจุดมุ่งหมายในการระดมเงินฝากจากประชาชน โดยขายตั๋วสัญญาการใช้เงิน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 10,000บาทและนำเงินเหล่านนี้ไปให้เอกชนกู้เงิน เพื่อใช้ลงทุนด้านกิจการต่างๆบริษัทเงินทุนด้านกิจการต่างๆบริษัทการเงิน มีลักษณะคล้ายกับธนาคารพาณิชย์แต่กฎหมายห้ามมิให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศออกหนังสือค้ำประกันอย่างธนาคารพาณิชย์ไม่ได้
2บริษัทหลักทรัพย์ เป็นสถาบันการเงินของเอกชน ทำหนน้าที่เป็นนายหนน้าหรือตัวแทน เพื่อซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่นในการค้าปกติโดยกระทำนอกตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์และเป็นที่ให้คำปรึกษาการลงทุนให้กับประชาชน
3บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นสถาบันการเงินของเอกชนมีฐานะเหมือนบริษัทจำกัดโดยมีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆร่วมถือหุ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศโดยให้เอกชนกู้ยืมเงินไปลงทุน
4บริษัทประกันภัย มีบทบาทและหน้าที่ด้านการบริการในกิจการรับประกันภัยแก่บุคคลทั่วไป โดยรับเฉลี่ยความเสียหายแกชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันโดยจ่ายเงินที่เอาประกันให้ในขณะที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นการตอบแทน
5โรงรับจำนำ มีบทบาทหน้าที่คอยช่วยเหลือผู้ขาดแคลนเงินทุนในระยะสั้น ๆโดยต้องวางทรัพย์สินค้ำประกันเงินกู้ โรงรับจำนำมีสิทธิที่จะริบทรัพย์สินที่เป็นประกัน และสามารถจำหน่ายสิ่งของหลุดจำนำแก่ประชาชนทั่วๆไป
6บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม มีบทบาทและหน้าที่ในการรวบรวมรวมเงินทุนจากผู้มีเงินออม และผู้ลงทุนรายย่อย โดยออกจำหนน่ายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมจะได้รับเงินปันผลคืนในรูปดอกเบี้ยและกำไร
7สหกรณ์คือ การร่วมกันทำงานโดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน ลงทุนร่วมกันแบ่งผลประโยชน์ให้แก่กันพอสมควรได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สมาชิกโดยไม่คำนึงถึงกำไร เมื่อกำไรจากการดำเนินงานจะจัดสรรเงินกำไรคืนให้กับสมาชิก
สหกรณ์การเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อหาเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เป็นสมาชิกเพื่อนำไปลงทุนการเกษตรและส่งเสริมความร่วมมือในหมู่คณะสมาชิก
สหกรณ์โรงเรียนมีวัตถุประสงค์คือช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยอาศัยหลักการประหยัด เพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่สมาชิก ปลูกฝั่งการออม ให้แก่นักเรียน มีสาระสำคัญดังนี้
1.ผู้ร่วมลงทุนอย่างน้อย 10 คน
2. ทุนของสหกรณ์แบ่งเป็นหน่วยย่อย มีมูลค่าเท่ากันเรียกว่าหุ้น
3.ไม่จำกัดจำนวนทุนเรือนหุ้น
4. มีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไร 5. เป็นนิติบุคคล
6. สมาชิกออกเสียงได้ 1 เสียง
7. เงินปันผลจะได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ย และอีกส่วนจะแบ่งตามส่วนที่สมาชิกทำกิจกรรมกับสหกรณ์
เป็นหลักปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชี้แนะแนว
ทางการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการ
ปฏิบัติบนทางสายกลาง โดยยึดหลักดังนี้
1 ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความพอดี พอมีพอใช้ ประหยัด โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
3 การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
4 การมีความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบที่จะนำความรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆมาใช้ในการวางแผน และความระมัดระวังทุกขั้นตอน
5 การมีคุณธรรม หมายถึงความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน และขยันหมั่นเพียร มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันและมีความสามัคคี
การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับนักเรียน
1 ความพอเพียง นักเรียนต้องมีความเป็นอยู่อย่างพอประมาณ ให้มีความพอดี ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย รู้จักคุณค่าของเงินรู้จักประหยัด และรู้จักออมทรัพย์เพื่อใช้ยามขาดแคลน รู้จักใช้บริการของสถาบันการเงินเพื่อการออมทรัพย์
2 ความมีเหตุผล นักเรียนจะกระทำการใด ๆให้เหมาะสมกับฐานะของนักเรียน ยึดหลักสายกลางในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดผลดีทั้งด้านการเรียนและด้านอื่น ๆ กระทำการใด ๆอย่างมีเหตุผล เหมาะสม ไตร่ตรองอย่างมีสติรอบคอบ ไม่กระทำการใด ๆให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ตนเอง บิดามารดา ครอบครัวหรือเป็นภาระแก่บุคคลอื่น
3 การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว นักเรียนต้องฝึกพึ่งพาตนเองเป็นหลักก่อน โดยทำกิจการงานให้เต็มความสามารถด้วยความอดทน ขยันหมั่นเพียร สิ่งใดที่เกินกำลังความสามารถต้องขอคำปรึกษา หรือความช่วยเหลือจากบุคคลที่เป็นที่พึ่ง และนักเรียนไว้วางใจได้ ได้แก่บิดา มารดา ครู และเพื่อนสนิท เป็นต้น
4 การมีความรู้ นักเรียน ต้องศึกษาหาความรู้รอบตัวให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการ ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของโรงเรียน ชุมชน จังหวัด ประเทศ ตลอดจนต่างประเทศเพื่อให้รู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและผลที่อาจเกิดขึ้นและต้องใช้ความรู้อย่างระมัดระวังในการกระทำใด ๆเพื่อป้องกันมิให้ผิดพลาด
5 การมีคุณธรรม นักเรียนจะต้องเป็นผู้มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ต่อตนเองและผู้อื่นไม่สนับสนุนหรือส่งเสริมผู้ที่ประพฤติมิชอบ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความสามัคคี ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมของโรงเรียนและชุมชนและเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มต่าง ๆที่ชุมชนจัดขึ้นเพื่อฝึก เรียนรู้ การทำงาน ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใสและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน