คำกริยา (verb) คือคำบอกอาการหรือการกระทำ(action) หรือความมีอยู่เป็นอยู่ (being) เช่น run, buy, walk, hit, eat เป็นต้น
ตัวอย่างคำกริยา โดย (http://elflearning.jp/)
อาจแบ่งคำกริยาได้ดังนี้
1. คำกริยาหลัก (Main Verbs)
1.1 กริยาที่มีการกระทำ (Action Verb) เช่น walk, feed, jump, toetip, catch, kick, swim,write, bark เป็นต้น 1.2 กริยาที่ไม่มีการกระทำ (No Action Verb) เช่น think, love, look, like, hate, consider เป็นต้น
Action and no Action Verbs
1.3 กรรมตรงและกรรมรองของกริยา(direct and indirect opject) โดย http://www.appuseries.com
***หากต้องการสื่อถึงอดีตกาลก็เพียงแค่เปลี่ยนรูปกริยาเป็นช่องที่2เท่านั้น
2. คำกริยา verb to be คือคำกริยาที่ต้องการสื่อถึงความหมาย เป็น อยู่ คือ นั่นเอง –> is, am, are, was, were (http://www.engvid.com)
2.1 หากต้องการสื่อถึงปัจจุบันกาล ก็ใช้ is, am, are
2.2 หากต้องการสื่อถึงอดีตกาล ก็ใช้ was, were
3. คำกริยาช่วย (Helping Verb/Auxiliary Verb/Modal Verb) ทำหน้าที่ช่วยกริยาทั่วไปเพื่อขยายความให้กว้างยิ่งขึ้น เพื่อเน้นการกระทำ นอกจากนี้ยังนำมาช่วยในการสร้างประโยคคำถาม และประโยคปฎิเสธ แบ่งออกได้ดังนี้
3.1 verb to do –> do, does, did (เมื่อต้องการเน้นคำกริยา)
3.2 verb to have –> have, has, had (สื่อถึงสิ่งที่ได้ทำแล้ว, …แล้ว และสิ่งที่ได้ทำยังมีผลอยู่ถึงปัจจุบัน ใช้ [have/has/had + V3] แต่หากสิ่งที่ได้ทำไปแล้วนั้นสมบูรณ์หรือจบไปแล้วตั้งแต่อดีตก็ให้ใช้ [had + V3]) เช่น
3.3 can, could สามารถ (สื่อถึงสิ่งที่ทำได้) เช่น
3.4 may, might อาจจะ (สื่อถึงความไม่แน่นอน)
3.5 will, shall จะทำ (สื่อถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) เช่น
3.6 would จะ(แบบมีเงื่อนไข, การเลือก, การร้องขอแบบสุภาพ)
3.7 must จะต้อง (สื่อถึงอดีต, สื่อถึงอนาคต, สิ่งที่ห้าม, สิ่งที่จำเป็น, สิ่งที่จะต้องทำให้ได้)
3.8 should ควรจะ (เสนอความคิดเห็น)